3 เรื่องควรรู้เกี่ยวกับกิจการที่ไม่ได้จดทะเบียนและเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม “อาจมีความผิดและเสียเบี้ยปรับ”


กรณีที่มูลค่าของฐานภาษีจากการประกอบกิจการเกิน 1,800,000 บาท ต่อปี ผู้ประกอบการซึ่งขายสินค้าหรือให้บริการ
ที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม หากผู้ประกอบการมิได้ยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มภายในเวลาตามที่
กฎหมายกำหนดแล้ว การประกอบกิจการของผู้ประกอบการรายนั้นเป็นการประกอบกิจการโดยไม่จดทะเบียน
ภาษีมูลค่าเพิ่ม ต้องรับผิดตามที่ประมวลรัษฎากรกำหนดไว้ซึ่งมีข้อพิจารณาตามลำดับ ดังนี้

ก. ความรับผิดในการเสียเบี้ยปรับ
1. กรณีประกอบกิจการโดยมิได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 85 หรือ มาตรา 85/1
ผู้ประกอบการซึ่งจะเริ่มประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการให้มีสิทธิยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มก่อนวันเริ่ม
ประกอบกิจการ
(1) สำหรับผู้ประกอบการซึ่งประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการและมีมูลค่าของฐานภาษีในการประกอบกิจการ
เกินมูลค่าของฐานภาษีของกิจการขนาดย่อม
(2) สำหรับผู้ประกอบการที่ได้แจ้งต่ออธิบดีเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
2. ประกอบกิจการเมื่อถูกสั่งเพิกถอนใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 85/17
ผู้ประกอบการจดทะเบียนใดกระทำผิดบทบัญญัติในหมวดนี้ (ภาษีมูลค่าเพิ่ม) อธิบดีมีอำนาจสั่งเพิกถอนการจดทะเบียน
ภาษีมูลค่าเพิ่มของผู้ประกอบการจดทะเบียนนั้นได้ และให้แจ้งการเพิกถอนดังกล่าวให้ผู้ประกอบการทราบเป็นหนังสือ

ข. ความรับผิดทางอาญา  
กรณีผู้ประกอบการไม่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มโดยมีรายรับเกินมูลค่า ของฐานภาษีของกิจการขนาดย่อม มีหน้าที่
ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม มิฉะนั้นมีความผิดฐานประกอบกิจการโดยไม่จดทะเบียน
ภาษีมูลค่าเพิ่ม เนื่องจากมีรายรับจากการขายสินค้าหรือให้บริการเกินกว่ามูลค่าของฐานภาษีของกิจการขนาดย่อม
การที่บุคคลใดอาจต้องรับผิดทางอาญา ต้องปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานซึ่งพิสูจน์ได้ว่ามีการกระทำ
อันเข้าลักษณะหนึ่งลักษณะใด

ค. แนววินิจฉัยของกรมสรรพากรที่น่าสนใจ
ตัวอย่าง นาง น. ประกอบกิจการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มมีมูลค่าของฐานภาษีในการประกอบกิจการเกินมูลค่า
ของฐานภาษีของกิจการขนาดย่อม เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2556 นาง น. ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เมื่อ
วันที่ 5 กันยายน 2556 และได้รับอนุมัติตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2556 นาง น.  ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม
(ภ.พ.30) สำหรับเดือนภาษีสิงหาคม 2556 เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2556 (ภายในกำหนดเวลา นาง น.ต้องรับผิด
เสียภาษีมูลค่าเพิ่มพร้อมทั้งเบี้ยปรับ และเงินเพิ่มแต่ไม่ต้องเสียค่าปรับอาญา เนื่องจากได้ยื่นคำขอจดทะเบียน
ภาษีมูลค่าเพิ่มภายในกำหนดเวลาตามที่กฎหมายกำหนด
(อ้างอิงหนังสือตอบข้อหารือของกรมสรรพากรตามหนังสือที่ กค 0702/7643ลงวันที่ 14 ตุลาคม 2557)

สรุป กรณีผู้ประกอบการซึ่งขายสินค้าหรือให้บริการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มและมีมูลค่าของฐานภาษี
เกินมูลค่าของฐานภาษีของกิจการขนาด มีหน้าที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตั้งแต่วันที่มูลค่าของฐานภาษีเกิน
มูลค่าของฐานภาษีของกิจการขนาดย่อม หากมิได้จดทะเบียนและเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจึงต้องรับผิดตามประมวล
รัษฎากร ดังนี้


1. เสียเบี้ยปรับสองเท่าของเงินภาษีที่ต้องเสียในแต่ละเดือนภาษีตามมาตรา 89 (1) แห่งประมวลรัษฎากร
2. เสียเงินเพิ่มร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของเงินภาษีที่ต้องชำระหรือนำส่งโดยไม่รวมเบี้ยปรับตาม
มาตรา 89/1 แห่งประมวลรัษฎากร
3. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินห้าพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับตามมาตรา 90/2 (2)
แห่งประมวลรัษฎากร

   
      บางส่วนจากบทความ “เรื่องน่ารู้เกี่่ยวกับเบี้ยปรับตามประมวลรัษฎากร มาตรา 89 (1)”
      อ่านบทความฉบับเต็มได้ใน... วารสารเอกสารภาษีอากร ปีที่ 39 ฉบับที่ 459 เดือนธันวาคม 2562




Tax Talk : Tax How to : ทวี วัฒนามณีโชติ  
วารสาร : เอกสารภาษีอากร ธันวาคม 2562